โดยส่วนมากโรคริดสีดวงจะสามารถรักษาให้หายเองได้ โดยมีวิธีการปฏิบัติดังนี้

1.     การนั่งแช่ในน้ำอุ่น เพื่อลดการอักเสบและลดการขยายตัวของหลอดเลือดดำประมาณ 10-15 นาที โดยควรทำทั้งก่อนและหลังถ่ายอุจจาระ

2.     ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยการเพิ่มอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น และดื่มน้ำให้มากขึ้น

3.     การกินยา โดยผู้ป่วยสามารถกินยาลดอาการบวมของเส้นเลือดดำ หรือยาแก้ปวด

4.     เหน็บยา แพทย์จะสั่งยาเหน็บเพื่อรักษาให้อาการดีขึ้น

5.     การฉีดยา จะทำโดยการฉีดยาเข้าไปในชั้นใต้เยื่อบุ ทำให้เกิดพังผืดรัดเส้นเลือด โดยฉีดระดับเหนือหูรูดทวารหนัก แต่แพทย์จะไม่ฉีดสารเคมีเข้าริดสีดวงโดยตรง เพราะสารเคมีอาจจะเข้าเส้นเลือดและส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดท้องและแน่นหน้าอกได้

6.     การใช้ยางรัด เป็นวิธีสำหรับผู้ป่วยที่มีริดสีดวงภายในที่ยื่นออกมาที่มีขนาดเหมาะสมในการรัด โดยแพทย์จะใช้หนังยางรัดเพื่อทำให้หัวริดสีดวงฝ่อและหลุดออกมาเองตามธรรมชาติ

7.     การจี้ริดสีดวง จะทำการจี้ริดสีดวงด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า หรืออินฟาเรด

8.     การผ่าตัด ใช้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นในระยะที่ 3-4 เพราะติ่งเนื้อจะมีขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเย็บ หรือผูกหัวริดสีดวง นอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องมือตัดเย็บเพื่อทำให้ติ่งเนื้อกลับเข้าไปในลำไส้ตรงอีกด้วย

การป้องกันตนเองจากโรคริดสีดวง

1.     รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผักและผลไม้ เพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องผูก

2.     ควรดื่มน้ำในปริมาณมากวันละ 8-10 แก้วเพื่อให้ขับถ่ายง่าย

3.     ไม่ควรเบ่งอุจจาระแรงเกินไป

4.     หากพบว่ามีเลือดออกมากควรรีบพบแพทย์

5.     รักษาสุขอนามัย โดยการล้างก้นด้วยน้ำสะอาดอยู่เสมอ และไม่ควรใช้กระดาษชำระที่แข็งจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้รูทวารหนักเกิดบาดแผลได้